การซื้อและการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖

Title: การซื้อและการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖Authors: นงนุช ใจชื่น, สรินทร์ยา พูลเกิด, สุรศักดิ์ ไชยสงค์ และทักษพล ธรรมรังสีIssue Date: มกราคม – มีนาคม 2556Publisher: สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข Abstract หนึ่งในปัจจัยสำคัญของการเพิ่มขึ้นของภาวะโรคอ้วนในเด็ก คือการโฆษณาของอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งมีอิทธิพลต่อความชอบอาหารและพฤติกรรมการบริโภคของเด็ก การโฆษณาจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญทางการตลาดในการสร้างการจดจำยี่ห้ออาหาร โดยมีเป้าหมายส่งเสริมให้เด็กมีการบริโภคอาหารเพิ่มมากขึ้น การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความสามารถในการจำยี่ห้อผลิตภัณฑ์อาหารที่โฆษณาในเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลส่วนตัวและครอบครัว และข้อมูลด้านโภชนาการของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ กับความสามารถในการจำยี่ห้อผลิตภัณฑ์อาหารที่โฆษณาได้ วิธีการศึกษา ได้เจาะจงเลือกเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ทั้งหมดจำนวน ๔๕๓ คน และเลือกตัวอย่างโรงเรียนตามสะดวก จากโรงเรียนประถมศึกษาของรัฐในกรุงเทพมหานครและจังหวัดเพชรบุรี และใช้แบบสอบถามประเภทให้กรอกคำตอบเอง เพื่อสำรวจข้อมูลส่วนตัวของนักเรียนและครอบครัว ข้อมูลด้านโภชนาการ และการจำยี่ห้อผลิตภัณฑ์อาหารของนักเรียน ผลการศึกษา พบว่า เด็กนักเรียนร้อยละ ๖๔.๗ (๒๓๙ คน) สามารถจำยี่ห้อผลิตภัณฑ์อาหารที่โฆษณาได้ โดยตอบถูกทุกยี่ห้อผลิตภัณฑ์อาหารในข้อถามทั้งหมด ๑๔ ข้อ เด็กนักเรียนมีพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ โดยบริโภคขนมขบเคี้ยวที่มีรสเค็ม ฟาสต์ฟู้ด [...]

การจำยี่ห้อผลิตภัณฑ์อาหารของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

Title: การจำยี่ห้อผลิตภัณฑ์อาหารของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6Authors: นงนุช ใจชื่น, พเยาว์ ผ่อนสุข, สรินทร์ยา พูลเกิด, สุรศักดิ์ ไชยสงค์ และทักษพล ธรรมรังสีIssue Date: มกราคม – มีนาคม 2555Publisher: สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข Abstract หนึ่งในปัจจัยสำคัญของการเพิ่มขึ้นของภาวะโรคอ้วนในเด็ก คือการโฆษณาของอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งมีอิทธิพลต่อความชอบอาหารและพฤติกรรมการบริโภคของเด็ก การโฆษณาจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญทางการตลาดในการสร้างการจดจำยี่ห้ออาหาร โดยมีเป้าหมายส่งเสริมให้เด็กมีการบริโภคอาหารเพิ่มมากขึ้น การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความสามารถในการจำยี่ห้อผลิตภัณฑ์อาหารที่โฆษณาในเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลส่วนตัวและครอบครัว และข้อมูลด้านโภชนาการของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ กับความสามารถในการจำยี่ห้อผลิตภัณฑ์อาหารที่โฆษณาได้ วิธีการศึกษา ได้เจาะจงเลือกเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ทั้งหมดจำนวน ๔๕๓ คน และเลือกตัวอย่างโรงเรียนตามสะดวก จากโรงเรียนประถมศึกษาของรัฐในกรุงเทพมหานครและจังหวัดเพชรบุรี และใช้แบบสอบถามประเภทให้กรอกคำตอบเอง เพื่อสำรวจข้อมูลส่วนตัวของนักเรียนและครอบครัว ข้อมูลด้านโภชนาการ และการจำยี่ห้อผลิตภัณฑ์อาหารของนักเรียน ผลการศึกษา พบว่า เด็กนักเรียนร้อยละ ๖๔.๗ (๒๓๙ คน) สามารถจำยี่ห้อผลิตภัณฑ์อาหารที่โฆษณาได้ โดยตอบถูกทุกยี่ห้อผลิตภัณฑ์อาหารในข้อถามทั้งหมด ๑๔ ข้อ เด็กนักเรียนมีพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ [...]

สถานการณ์การจัดอาหารในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในประเทศไทย

Title: สถานการณ์การจัดอาหารในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในประเทศไทยAuthors: วาทินี คุณเผือก, สิรินทร์ยา พูลเกิด, ทักษพล ธรรมรังสี, นิศาชล เศรษฐไกรกุล, สุลัดดา พงษ์อุทธาIssue Date: กรกฎาคม - สิงหาคม 2558Publisher: สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข Abstract ปัจจุบันหน่วยงานภาครัฐได้มีการกำหนดมาตรฐานการจัดอาหารในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก (ศพด.) เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานด้านโภชนาการ อย่างไรก็ตามจากหลักฐานทางวิชาการแสดงให้เห็นว่า ศพด. จำนวนหนึ่ง มีการจัดอาหารที่มีน้ำตาล ไขมัน หรือโซเดียมสูงซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาภาวะโภชนาการเกินในเด็ก การศึกษาครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมิณสถานการณ์การดำเนินงานด้านการจัดอาหารใน ศพด. ในประเทศไทยการศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาแบบตัดขวาง โดยใช้แบบสอบถามเพื่อสำรวจข้อมูลทั่วไปและการจัดการอาหารจากกลุ่มตัวอย่าง ศพด. จำนวน 410 แห่ง ซึ่งเป็นตัวแทน ศพด.ใน 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่สนใจ ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ศพด. ขนาดใหญ่และขนาดกลางที่ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองจัดอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้ให้เด็กมากกว่า ศพด. ขนาดเล็กทีตั้งอยู่นอกเขตอำเภอเมือง การจัดอาหารประเภทขนมไทย นมเปรี้ยว นมหวาน และน้ำอัดลม พบมากที่สุดทั้งใน ศพด. [...]

ปัจจัยที่มีผลต่อการจัดอาหารในโรงเรียนประถมศึกษา

Title: ปัจจัยที่มีผลต่อการจัดอาหารในโรงเรียนประถมศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ เลย นนทบุรี และภูเก็ตAuthors: จิราพร ขีดดี, ทักษพล ธรรมรังสี และวิลาวัลย์ เอื้อวงตระกูลIssue Date: เมษายน - มิถนายน 2557Publisher: สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข Abstract ในประเทศไทยได้มีการจัดอาหารในโรงเรียนสำหรับเด็กนักเรียนประถมศึกษาขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2495 จนถึงปัจจุบันจากหลักฐานทางวิชาการแสดงให้เห็นว่าการจัดอาหารในโรงเรียนยังมีข้อจำกัดในด้านการแก้ไขปัญหาทุพโภชนาการทั้งด้านโภชนาการขาด และโภชนาการเกิน ผู้วิจัยใช้วิธีการศึกษาแบบภาคตัดขวาง โดยศึกษาแบบผสมผสาน (mixed methods) ทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพเก็บข้อมูลใน 3 ระดับคือระดับส่วนกลาง ระดับจังหวัด และระดับพื้นที่ ข้อมูลเชิงปริมาณได้จากแบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่าง 226 โรงเรียน วิเคราะห์ข้อมูลข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่กำหนดขึ้นตามกรอบแนวคิดและคุณค่าทางโภชนาการของอาหารกลางวัน ข้อมูลเชิงคุณภาพ ได้จากการสัมภาษณ์เชิงลึก และสนทนากลุ่มในผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับระบบจัดการอาหารในโรงเรียน ผลการศึกษาพบว่าคุณค่าทางโภชนาการที่ได้จากอาหารกลางวันและอาหารว่างไม่เพียงพอต่อความต้องการของเด็กโดยมีปริมาณอาหารที่ให้พลังงานเฉลี่ยอยู่ในระดับร้อยละ 79.24 ของพลังงานเป้าหมานและมีค่าเฉลี่ยของธาตุเหล็ก วิตามินเอ และใยอาหารอยู่ในระดับร้อยละ 56.94, 48.89 และ 37.51 ตามลำดับ เป้าหมานพบว่าคุณค่าทางโภชนาการมีความสัมพันธ์กับขนาดของโรงเรียน สังกัดโรงเรียน และการใช้วัตถุดิบในการประกอบอาหารจากผลิตภัณฑ์การเกษตรในพื้นที่อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05) [...]

อาหารโรงเรียนเสี่ยงโรคอ้วนในเด็กและแนวทางการแก้ไขด้วยเกณฑ์การจำแนกอาหาร

Title: อาหารโรงเรียนเสี่ยงโรคอ้วนในเด็กและแนวทางการแก้ไขด้วยเกณฑ์การจำแนกอาหารAuthors: นางสาวปฏิญญา ศรีใสIssue Date: -Publisher: แผนงานวิจัยนโยบายอาหารและโภชนาการเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ (FHP) Abstract ภาวะโรคอ้วนและน้ําหนักเกินในเด็ก เป็นภาวะที่สามารถส่งผลกระทบในเชิงลบอย่างรุนแรงต่อระบบสร้างเสริมสุขภาพและระบบเศรษฐกิจทั่วโลก โดยจากการศึกษาโดย Serdula และคณะ พบว่าเด็กที่มีภาวะน้ําหนักเกิน มีความเสี่ยงที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีภาระโรคอ้วนถึงสองเท่า ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่สําคัญต่อโรคไม่ติดติอเรื้อรัง (Noncommunicable diseases) ได้แก่ โรคหัว ใจและหลอดเลือด เบาหวาน และมะเร็ง ทั้งนี้ โรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นภาระโรคที่เผาผลาญงบประมาณสําหรับหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (Universal Health Coverage; UHC) อย่างมาก และส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยมีค่าใช้จ่ายทางเศรษฐศาสตร์ถึง 280 ล้านบาทหรือ 2 เปอร์เซ็นต่ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) นอกจากนี้ 71% ของอัตราการเสียชีวิตในประเทศไทยยังมาจากการป่วยเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอีกด้วย จะเห็นได้ว่า การป้องกันและจัดการกับปัญหาโรคอ้วนและน้ําหนักเกินในเด็ก เป็นเรื่องที่สําคัญอย่างมาก อ่างไรก็ตามจากการสํารวจในปี พ.ศ. 2551-2556 ยังพบว่าความชุกของ โรคอ้วนในเด็กวัยเรียนนั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (จาก 5.8% เป็น 6.7%)
1 18 19 20 21 22 40