สถานการณ์ โอกาส และอุปสรรคในการจัดโครงการส่งเสริมโภชนาการในโรงเรียนในจังหวัดสงขลา

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาสถานการณ์ ปัจจัยที่เป็นอุปสรรค โอกาศในการส่งเสริมโภชนาการในโรงเรียนในจังหวัดสงขลา โดยได้สุ่มตัวอย่างในโรงเรียนจำนวน 95 โรง ครอบคลุมโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น (คิดเป็น ร้อยละ 78.9) และที่เหลือเป็นโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (คิดเป็นร้อยละ 21.1) เก็บข้อมูลด้วยการสังเกตและการสัมภาษณ์อย่างมีโครงสร้าง ผลการศึกษาพบว่า ทุกโรงเรียนมีบริการอาหารกลางวัน ร้อยละ 78 ของโรงเรียนมีการปรุงประกอบอาหารโดยแม่ครัวที่โรงเรียนจ้างมา ปริมาณพลังงานเฉลี่ยต่อ 1 สำรับ 418.1 +- 117.3 กิโลแคลอรี่ มีวิตามินเอ ธาตุเหล็กและแคลเซียมต่ำกว่ามาตรฐาน ร้อยละ 79.4 ของสำรับที่จัดเป็นอาหารกลางวันมีพลังงานอยู่ในช่วง 20-40% RDI ส่วนใหญ่โรงเรียนมีการบูรณาการความรู้ทางโภชนาการในรายวิชาการงานอาชีพ และสุขศึกษาเป็นหลัก มีเพียง 9 โรงเท่านั้นที่มีการบูรณาการในรายวิชาอื่นๆ เช่น คณิคศาสตร์ ภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์ โรงเรียนร้อยละ 96.6 มีการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่ส่งเสริมโภชนาการ โดยมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายตั้งแต่ 1-5 กิจกรรม ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมโภชนาการ เช่น ครู แม่ครัว รวมทั้งผู้สนับสนุน เช่น ผู้ปกครอง มีทัศนคติที่ดีมากต่อการส่งเสริมโภชนาการในโรงเรียน ในขณะที่มีการประเมินคุณภาพการบริหารงานส่งเสริมโภชนาการในโรงเรียนอยู่ในระดับดี ร้อยละ 70-75 ของผู้บริหารสถานศึกษาและผู้ดำเนินงาน ระบุว่า มีอุปสรรคในการพัฒนาโรงเรียนเข้าสู่โรงเรียนโภชนาการสมวัย และต้องการสนับสนุนจากหน่วยงานภายนอกในเรื่องหลัก 3 เรื่อง คือ การพัฒนาการบุคลากรที่เกี่ยวข้อง การให้คำปรึกษาและพี่เลี้ยงในระหว่างการพัฒนาโรงเรียน รวมทั้งงบประมาณ