ผลกระทบจากการขึ้นราคาต่อพฤติกรรมการบริโภคเครื่องดื่มรสหวาน
Title: รายงาน ผลกระทบจากการขึ้นราคาต่อพฤติกรรมการบริโภคเครื่องดื่มรสหวาน : การคาดการณ์ของผู้บริโภคAuthors: นางสาวสุลัดดา พงษ์อุทธา, นางสาวปิติภา จงวัฒน์ผล, นายชัชวาลย์ เผ่าเพ็ง, นายภาวิน ตันตยาภิรักษ์Issue Date: มกราคม 2561Publisher: แผนงานวิจัยนโยบายอาหารและโภชนาการ เพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ มูลนิธิเพื่อการพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ Abstract ในประเทศไทยอุตสาหกรรมเครื่องดื่มกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยในส่วนของส่วนแบ่งทางการตลาดของเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์นั้น พบว่าในปี พ.ศ. 2556 นํ้าอัดลมมีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุด รองลงมาคือเครื่องดื่มชูกำลัง นํ้าดื่ม ชาพร้อมดื่ม นํ้าผลไม้พร้อมดื่มและฟังก์ชันนัลดริ้งก์ ตามลำดับ[1] เครื่องดื่มรสหวานนั้นหมายถึง เครื่องดื่มที่มีนํ้าตาลในรูปแบบต่างๆ ที่ให้พลังงาน เช่นนํ้าอัดลม นํ้าผลไม้ เครื่องดื่มเกลือแร่ เครื่องดื่มชูกำลัง นมโคและนมถั่วเหลืองปรุงแต่ง เป็นต้น การบริโภคเครื่องดื่มรสหวานนั้นนอกจากเพิ่มจำนวนพลังงานที่ได้รับ ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วนอีกทั้งยังมีความสัมพันธ์กับการลดการบริโภคของนม ผักและผลไม้อีกด้วย โดยแบบแผนการบริโภคดังกล่าวส่งผลให้คุณภาพโดยรวมของอาหารนั้นตํ่าลง[2] การบริโภคอาหารที่ไม่ถูกหลักโภชนาการหรือคุณภาพตํ่านั้นเป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคอ้วนและโรคไม่ติดต่อเรื้อรังบางประเภท ซึ่งความชุกของโรคอ้วนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นในหลายทศวรรษที่ผ่านมาและยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปเรื่อยๆ รวมไปถึงภาระค่าใช้จ่ายทางสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วนอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น โรคอ้วนเองก็ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคติดต่อไม่เรื้องรัง (NCDs) ซึ่งเป็นสาเหตุการตายและการเจ็บป่วยอันดับต้นๆของคนไทย